3. ระบบเหยื่อล่อ ซึ่งเป็นที่รู้จักในท้องตลาดอยู่ 3-4ยี่ห้อ
วิธีนี้จะใช้เหยื่อล่อไปฝังดินเป็นระยะๆ รอบตัวบ้านที่จุดที่คาดว่าน่าจะเป็นทางผ่านของปลวก จนกระทั่งปลวกเดินเข้ามากินเหยื่อแล้วจึงเปลี่ยนมาเป็นเหยื่อพิษแทน โดยในวิธีนี้จะต้องมีการ monitor เหยื่ออยู่เป็นระยะๆ ถ้าวางเหยื่อไว้ถูกจุดและสารดึงดูดสามารถยั่วน้ำลายปลวก เจ้าหน้าที่ก็จะเปลี่ยนจากสารดึงดูดเป็นสารพิษที่จะทำให้ปลวกก็จะพากันตายยกรังเพราะเหยื่อพิษที่ปลวกขนกลับไปที่รัง
แต่ในทางปฏิบัติแล้ว มีรายงานการวิจัยโดยนักวิชาการอิสระจากสหรัฐอเมริการะบุว่าวิธีนี้ใช้ได้ผลเพียง 70% เท่านั้นเนื่องจากหากเหยื่อล่อไม่สามารถเรียกปลวกมาจุดที่วางเหยื่อล่อไว้ได้ ปลวกก็จะตรงเข้าทำลายบ้าน ดังนั้นจึงอาจต้องมีการวางอุปกรณ์ตรวจจับ หรือล่อปลวกแบบที่ใช้ภายในบ้านตามจุดที่สุ่มเสียงต่อการเข้ามาของปลวก พร้อมกับคอยตรวจเช็คอย่างสม่ำเสมอเพื่อติดตามปลวกก่อนเข้าทำความเสียหายกับบ้าน จึงเป็นวิธีป้องกันที่มีค่าใช้จ่ายสูงที่ต้องว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญมาดำเนินการและตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง
และวิธีการนี้ใช้ได้กับทั้งบ้านสร้างบ้านใหม่ และบ้านที่อยู่อาศัยแล้ว แต่จะว่าไปแล้วเหมาะสำหรับบ้านที่สร้างใหม่มากที่สุด เพราะ ถ้าปลวกทำรังอยู่ใต้ดินบริเวณที่บ้านคร่อมทับอยู่แล้ว การใช้เหยื่อล่อก็อาจไม่เป็นผล
แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม หากปลวกสามารถฝ่าด่านต่างๆ และบุกเข้ามาถึงตัวบ้านแล้ว ถ้าเจ้าของบ้านไม่มีปราการขั้นที่สองป้องกันไม่ให้ปลวกทำความเสียหายแล้ว ก็ทำใจได้เลยว่าไม้ ฝ้าและเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินจะกลายเป็นแหล่งอาหารอันโอชะให้กับปลวกเหล่านี้เสมอ
วิธีที่ 4 น้ำยารักษาเนื้อไม้ ปราการด้านที่สอง หยุดการทำลายของปลวก
ยังโชคดีที่อาคารบ้านเรือนสมัยใหม่ในประเทศไทยมีส่วนประกอบที่เป็นไม้ค่อนข้างน้อย เมื่อปลวกบุกเข้าบ้านจึงไม่ถึงกับทำลายโครงสร้างหรือทำให้ความแข็งแรงของตัวบ้านลดลง แต่ความเสียหายจะไปเกิดขึ้นกับเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ฝ้า หรือวงกบไม้ต่างๆ
ปราการด่านที่สองที่ว่าคือการนำไม้ที่ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์มาทำให้เป็นพิษสำหรับปลวก ด้วยการอาบ ทา เคลือบ น้ำยารักษาเนื้อไม้เพื่อป้องกันปลวกและศัตรูไม้อื่นๆ วิธีนี้จะช่วยให้เจ้าของบ้านมั่นใจเพิ่มขึ้นว่าหากปลวกเข้ามาในบ้านแล้ว ก็จะไม่สามารถที่จะเจาะกินเนื้อไม้สร้างความเสียหายได้
น้ำยาป้องกันปลวกเนื้อไม้ที่มีอยู่ในท้องตลาดก็มีอยู่หลายชนิด หลักๆ แล้วก็เป็นยี่ห้อที่คุ้นๆ หูกันอยู่ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็สามารถป้องกันปลวกแมลงทำลายไม้ แต่แลกกับการที่เราต้องสูดดมไอระเหยพิษที่ออกมาจากผลิตภัณฑ์แบบไม่มีทางเลือกและยังสุ่มเสี่ยงกับการปนเปื้อนของยาฆ่าแมลง (Vic’s) สังเคราะห์ใกล้เคียงกับสารเคมีราดดินแต่อยู่ใกล้ตัวเรามากขึ้นไปอีก
สำหรับคนที่ไม่ต้องการที่จะฆ่าสัตว์เลย อาจจะเลือกใช้วิธีนี้เพียงอย่างเดียวในการป้องกันไม่ให้ปลวกกินบิวท์อินของเรา เพราะปลวกจะรู้ว่าไม้นี้มีสารที่เป็นพิษต่อร่างกายอยู่ก็จะเลี่ยงด้วยการไม่กินเลย แต่ก็อาจจะเสี่ยงเล็กน้อยโดยเฉพาะกับบ้านที่มีที่ดินและมีสวนอยู่รอบ เพราะมีความเป็นไปได้สูงมากว่าปลวกจะอาศัยอยู่ใต้ดินนั้น แต่ก็อาจจะเป็นทางเลือกเดียวหากไม่ต้องการอัดฉีดสารเคมีลงดินเพื่อกำจัดปลวกเป็นประจำ
แล้วเรายังมีทางเลือกอื่นที่ปลอดภัยและใช้ได้ผลจริงอีกมั้ย ?
เดี๋ยวนี้ คนที่มองหาทางวิธีป้องกันปลวก ที่ไม่เป็นอันตรายกับคนและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หรือไม่อยากฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ก็มีทางเลือกใหม่ที่ให้เราใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยกับชีวิตและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อย่างน้ำยารักษาเนื้อไม้และป้องกันปลวกช่วยให้ไม่ผุ จึงยืดอายุการใช้งานของไม้ซึ่งผลิตภัณฑ์ป้องกันปลวกในท้องตลาดไม่มีคุณสมบัติข้อนี้ที่ได้จากสารบอเรตแทน เพราะให้ผลทั้งเป็นแนวป้องกัน ปลวกและยังช่วยรักษาเนื้อไม้ไปในตัวที่สำคัญใช้เพียงครั้งเดียวก็สามารถปกป้องเนื้อไม้ได้ตลอดอายุการใช้งาน ถ้าใครสนใจรายละเอียดมากกว่านี้ก็สามารถคลิ๊กไปหาอ่านเพิ่มเติมได้ที่
บอราแคร์ ผลิตภัณฑ์ป้องกันปลวก แมลง เชื้อรา มาตรฐานกรีน
อีกทางเลือกหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นบ้านสร้างใหม่หรือบ้านสร้างแล้วอาจลองนำเอาวิธีการที่เหมาะสมต่างๆ หลายๆวิธีมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน เช่น การราดน้ำยาลงดินเป็นแนวป้องกันปลวกรอบตัวบริเวณบ้านแล้ว protect ส่วนประกอบที่เป็นไม้ของตัวบ้านอีกชั้นด้วยผลิตภัณฑ์ป้องกันปลวกและรักษาเนื้อไม้ เพื่อให้มั่นใจว่าแม้ปลวกผ่านด่านแรกแล้วหลุดเข้ามาในบ้านแล้ว มันจะไม่เห็นบิวท์อินของเราเป็นแหล่งอาหารของมัน
ต้องขอขอบคุณคุณนำชัย ที่ให้ความรู้เรื่องปลวกกับเราในวันนี้ ถ้าใครกำลังมีปัญหาเรื่องปลวก หรืออยากปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลรักษาพื้นไม้ล่ะก็ โทร.ปรึกษาได้ที่
บริษัท เชียงไทยเทรดดิ้ง จำกัด
7 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 ซอย 48 แยก 4 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
โทรศัพท์ 081-841-2443 0-2726-7300 โทรสาร 0-2726-7350 e-mail: info@boracarethai.com